เหยื่อค้ามนุษย์ชุดแรก 41 คนจากเล่าก์ก่ายถึงไทยพรุ่งนี้ แต่ชุดใหญ่ 293 คนยังคงเผชิญทุกข์ยากในแดนนรก

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าถึงการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่เมืองเล่าก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง รัฐฉานเหนือ ประเทศพม่า ว่าขณะนี้คนไทยจำนวน 293 คนยังคงพักพิงอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งเพื่อรอทางการพม่าส่งกลับ อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่เกิดการสู้รบรุนแรงระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังพันธมิตรกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้คนไทยอีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 41 คนที่ถูกนายจ้างชาวจีนกักขังไว้นั้น ได้หลบหนีพร้อมกับชาวพม่าเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษว้า โดยทางว้าได้ประสานที่จะจัดส่งกลับมาประเทศไทยแต่เนื่องจากต้องผ่านด่านเมืองท่าขี้เหล็ก ทำให้ต้องเจรจากับทหารพม่า ซึ่งในที่สุดทางว้าได้มอบคนไทยกลุ่มนี้ให้กับทหารพม่า

ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ระบุว่าคนไทย 41 คนนี้ได้เดินทางถึงเมืองยาง ของเมียนมาตั้งแต่เมื่อบ่ายวันเดียวกันนี้ และอยู่ในความดูแลของทางการพม่าแล้ว และจะนำส่งคนไทยกลุ่มนี้ไปยังเมืองเชียงตุง เพื่อส่งต่อให้ทางการไทย โดยจะถึงเชียงตุงในช่วงเย็น และจะเดินทางมายังเมืองท่าขี้เหล็กเพื่อเข้าประเทศไทยทางด่านแม่สาย จ.เชียงราย

รายงานแจ้งว่า กลุ่มคนไทยจะเดินทางข้ามมาถึงฝั่งไทยช่วงเที่ยงของวันที่ 16 พฤศจิกายน ก่อนจะนำตัวไปคัดกรองตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช และนำตัวไปที่ มณฑลทหารบกที่ 37 อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism – NRM) ที่ จ.เชียงราย และเปิดให้พบญาติคาดว่าจะในช่วงค่ำ

สำหรับการประสานงานนำคนไทย 41 คนชุดนี้กลับไทยมีการประสานงานกันระหว่างทหารว้า -เมียนมา -ไทย โดยกองทัพบกไทย ผ่านขั้นตอน TBC คณะกรรมการร่วมชายแดนไทย-เมียนมา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานงานผ่านกลไกต่างๆในการนำคนไทยออกมาได้อย่างปลอดภัย

นายเอ(นามสมมุติ) คนไทยที่ถูกหลอกและยังอยู่ในโรงเรียนที่เมืองเล่าก์ก่าย ให้สัมภาษณ์ทางออนไลน์ว่า ขณะนี้ 293 คนกำลังติดตามข่าวการส่งคนไทยทั้ง 41 คนกลับประเทศอย่างใจจดจ่อ เนื่องจากหลายคนในกลุ่มนี้ออกมาจากธุรกิจต้มตุ๋นออนไลน์มากก่อน 41 คนนี้แต่กลับยังติดอยู่ในเมืองเล่าก์ก่าย และมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ที่สำคัญคือมีข่าวว่ากำลังจะเกิดการสู้รบใหญ่อีกครั้งใน 2-3 วันข้างหน้า ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลไทยเร่งช่วยเหลืออพยพพวกตนกลับโดยเร็ว

ขณะที่การสู้รบในพื้นที่ต่างๆรอบประเทศพม่าโดยเฉพาะในรัฐคะเรนนีและรัฐยะไข่ รวมถึงรัฐฉานตอนเหนือยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งข่าวจากกลุ่มบรรเทาทุกข์รัฐคะเรนนี้เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ผู้หนีภัยจากการสู้รบที่หลบภัยอยู่บริเวณชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกส่งกลับไปแล้วเกือบครึ่งเนื่องจากถูกกดดันจากบางหน่วยงานของทางการไทย แต่คนเหล่านี้ไม่ได้กลับไปยังบ้านเรือนถิ่นฐานเดิมที่จากมาเพราะยังมีการสู้รบอยู่ และส่วนใหญ่ยังคงหลบภัยอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน ขณะที่พื้นที่ในเมืองใหญ่ของรัฐคะเรนนีโดยเฉพาะเมืองลอยก่อซึ่งเป็นเมืองหลง พบว่าทหารพม่าได้กระจายตัวอยู่ตามอาคารต่างๆ และห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน หากใครฝ่าฝืนจะถูกยิง

“ทางกลุ่มกองกำลังคะเรนนี้ได้ประกาศให้ประชาชนในเมืองลอยก่อย้ายออกไปก่อน เพราะมีอันตรายมาก แต่ประชาชนปฎิบัติได้ยากเนื่องจากเสี่ยงอันตราย ที่สำคัญคือในเมืองลอยก่อกำลังขาดแคลนอาหาร และสิ่งที่ประชาชนในเมืองลอยก่อกังวลมากคือมีกระแสข่าวว่าทหารพม่าอาจใช้อาวุธเคมี ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างวิกฤต”แหล่งข่าวระบุ

SOURCE: https://transbordernews.in.th/home/?p=36458