เจ้าหน้าที่ บุกทลาย ซอยกีบหมู พบ”แรงงานต่างด้าวเถื่อน” เตรียมส่งกลับประเทศ

กระทรวงแรงงาน พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน เข้าตรวจสอบซอยกีบหมู พบ”แรงงานต่างด้าวเถื่อน” จำนวนมาก ด้าน”อธิบดีกรมการจัดหางาน” เตือนนายจ้าง ฝ่าฝืน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยนายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และพลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน นำเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ ของกรมการจัดหางานลงพื้นที่บริเวณถนนเจริญพัฒนา ซอยสุเหร่าคลอง 1 (ซอยกีบหมู) แขวงบางชัน เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

โดยมีหน่วยงานความมั่นคง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) รวม 85 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65  มีมติคณะรัฐมนตรี ให้กลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ยังมี “สถานะไม่ถูกต้อง” แต่ประสงค์จะทำงานอย่างถูกต้อง ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด เพื่อสามารถอยู่และทำงานในประเทศไทยได้ไม่เกิน 13 ก.พ. 68  อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต้องคำนึงถึงโอกาสในการประกอบอาชีพของคนไทย ความมั่นคงของชาติ ตลอดจนป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานหรือบังคับใช้แรงงาน จึงเป็นที่มาของการลงพื้นที่ซอยกีบหมูในวันนี้

ด้านอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เนื่องจากซอยกีบหมูนี้ แต่ละวันจะมีนายจ้างมารับไปทำงานตามไซส์งานก่อสร้างต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่มีใบอนุญาตทำงาน แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบวันนี้พบ “แรงงานต่างด้าว” จำนวน 102 คน โดยพบว่า 31 คน มีความผิดตามพ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง ที่อยู่เกินกำหนดระยะอนุญาต หรือ Overstay หลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว ทั้งแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน แรงงานต่างด้าวที่เคยมีนายจ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้ทำงานกับนายจ้างแล้วแต่นายจ้างไม่ได้แจ้งออก และแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน แต่นายจ้างเป็นนอมินี ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำตัวไปที่ สน.คันนายาว เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย ต้องมีนายจ้าง แรงงานเหล่านี้ไม่สามารประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบได้ เพราะจะเป็นการแย่งอาชีพคนไทย ที่ผ่านมากรมการจัดหางานมีการจับตาดูซอยกีบหมูมาโดยตลอด และหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

นายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

แหล่งที่มา: https://www.komchadluek.net/news/crime/534850